ระบบเครื่องมือตัดเฉือนโลหะเพื่อนวัตกรรมอากาศยาน
Sandvik Coromant — พันธมิตรที่ไว้ใจได้ของอุตสาหกรรมอากาศยาน
ความก้าวหน้าหลายๆ ด้านที่เราเห็นในอุตสาหกรรมอากาศยานทุกวันนี้เป็นผลมาจากนวัตกรรมด้านวัสดุ ไม่ว่าแรงขับเคลื่อนสู่ความเปลี่ยนแปลงนั้นจะมาจากความต้องการรักษาสิ่งแวดล้อม ประสิทธิภาพ หรือการนำเครื่องมือระบบดิจิตอลมาใช้ก็ตาม การผลิตชิ้นส่วนอากาศยานยังคงต้องพึ่งพาการพัฒนาเทคโนโลยีและวัสดุใหม่ๆ เพื่อปูเส้นทางไปสู่อากาศยานแห่งอนาคต Sandvik Coromant คือสะพานเชื่อมระหว่างความรู้ด้านการตัดเฉือนและระบบเครื่องมอมาตั้งแต่ปี 1942 ในฐานะบริษัทชั้นนำด้านงานตัดเฉือนโลหะและพันธมิตรที่ทำงานร่วมกับอุตสาหกรรมอากาศยานอย่างใกล้ชิดมาโดยตลอด
ถึงแม้เครื่องบินลำแรกของโลกของสองพี่น้องตระกูลไรท์เมื่อปี 1903 อาจจะลอยอยู่บนฟ้าได้แค่เพียง 12 วินาที แต่ถือเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญของการวิจัยและพัฒนาอุตสาหกรรมอากาศยานตลอดระยะเวลากว่าหนึ่งศตวรรษต่อมา นับตั้งแต่เครื่องบินติดเครื่องยนต์บินขึ้นสู่ฟ้าเป็นครั้งแรก การผลิตชิ้นส่วนอากาศยานได้มีการปรับตัวอยู่ตลอดเวลาเพื่อเอาชนะความท้าทายต่างๆ
วัสดุชนิดใหม่มีบทบาทสำคัญในการตอบโจทย์ความท้าทายของอุตสาหกรรมอากาศยาน แต่การวิจัยและพัฒนาวัสดุชนิดใหม่เองก็มีอุปสรรคเฉพาะตัวด้วยเหมือนกัน ดังนั้น ผู้ผลิตในอุตสาหกรรมอากาศยานจึงจำเป็นต้องจับมือร่วมกับแบรนด์เครื่องมือที่มีความรู้และประสบการณ์ รวมทั้งสามารถช่วยเหลือผู้ผลิตในการตอบสนองความต้องการใหม่ๆ ได้
ก้าวสู่ยุคใหม่
ความท้าทายสำคัญของอุตสาหกรรมอากาศยานในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 มีแค่อย่างเดียวคือ การทำให้เครื่องบินบินขึ้นสู่ท้องฟ้าให้ได้ แต่ในปัจจุบัน อุตสาหกรรมอากาศยาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ผลิตชิ้นส่วนอากาศยาน ยังต้องเผชิญกับระเบียบข้อบังคับใหม่ๆ มากมายที่ต้องปฏิบัติตาม ความพยายามในการลดมลพิษทางคาร์บอนที่เกิดจากการเดินทางทางอากาศ ส่งผลให้ผู้ผลิตจำเป็นต้องทุ่มเทค้นหาวิธีที่จะทำให้เครื่องบินมีน้ำหนักเบาลงเพื่อประหยัดเชื้อเพลิง
การลดน้ำหนักของเครื่องบินสามารถลดปริมาณการใช้เชื้อเพลิงของเครื่องบินได้ ตัวอย่างเช่น สายการบิน United Airlines ได้เปลี่ยนไปใช้กระดาษน้ำหนักเบาในการพิมพ์นิตยสารบนเครื่อง ทำให้สามารถประหยัดเชื้อเพลิงได้กว่า 170,000 แกลลอนต่อปี น้ำหนักแม้เพียงแค่กรัมเดียวสำคัญต่อการออกแบบเครื่องบินให้เบาลง ไม่ว่าจะเป็นน้ำหนักของชิ้นส่วนขนาดใหญ่ เช่น วิงบอกซ์ ไปจนถึงมอเตอร์ตัวเล็กๆ สำหรับปรับเอนพนักที่นั่งผู้โดยสาร ในอนาคตข้างหน้า เครื่องบินที่ประหยัดเชื้อเพลิงได้มากขึ้นจะยังมีบทบาทสำคัญต่อการลดปริมาณการใช้เชื้อเพลิง รวมถึงความสำเร็จขั้นต่อไปของการเปลี่ยนไปสู่การบินด้วยเครื่องบินไฟฟ้าเต็มรูปแบบ
หากมองในส่วนอื่นๆ ของอุตสาหกรรมอากาศยาน งานบำรุงรักษา ซ่อมแซม และดำเนินการ (Maintenance, Repairs, and Operations หรือ MRO) นั้นยังคงเป็นส่วนงานที่มีความซับซ้อนมากที่สุด ส่งผลให้บริษัทผู้ผลิตหลายรายต้องเริ่มมองหาวิธีในการที่จะลดต้นทุนการบำรุงรักษา ซึ่งวิธีที่ใช้กันเป็นส่วนใหญ่คือการจำลองข้อมูล เพื่อให้สายการบินสามารถวางแผนการบำรุงรักษาและซ่อมแซมเครื่องบินได้ล่วงหน้า
ชิ้นส่วนของจานเทอร์ไบน์ทำจากวัสดุ HRSA ที่ติดตั้งในเครื่องยนต์อากาศยาน
ความก้าวหน้าทางวัสดุศาสตร์ช่วยเปิดโอกาสความเป็นไปได้ใหม่ๆ ให้แก่บริษัทในอุตสาหกรรมอากาศยาน โดยจะเห็นได้จากการนำวัสดุคอมโพสิตและกราฟีนมาใช้มากขึ้น รวมไปถึงวัสดุน้ำหนักเบาอย่างไทเทเนียม นวัตกรรมในด้านเทคโนโลยีวัสดุยังรวมถึง การใช้โลหะผงและเทคโนโลยีการผลิตแบบเพิ่มเนื้อ เพื่อออกแบบชิ้นส่วนโลหะที่มีน้ำหนักเบาและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น
ไทเทเนียมแข็งแรงกว่าเหล็กกล้า 30% แต่เบากว่าถึงเกือบ 50% ทำให้กลายเป็นวัสดุหลักที่เข้ามาช่วยแก้ปัญหาด้านประสิทธิภาพและความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม อย่างไรก็ตาม การตัดเฉือนวัสดุ เช่น ไทเทเนียม นั้นมีความท้าทายอยู่พอสมควร ไทเทเนียมอัลลอยมีค่าความแข็งเป็นสองเท่าของเหล็กกล้าอัลลอย รวมทั้งยังมีคุณสมบัตินำความร้อนต่ำ ดังนั้น เครื่องมือที่ใช้ในการตัดเฉือนจึงต้องทนต่อแรงกระทำและความร้อนสูงมาก
พันธมิตรที่ไว้วางใจได้
Sandvik Coromant มีการทำงานร่วมกับอุตสาหกรรมอากาศยานมายาวนาน พร้อมทั้งมีการปรับปรุงพัฒนานวัตกรรมตามยุคสมัย โดยจะยังคงเดินหน้าสนับสนุนอุตสาหกรรมนี้ให้ก้าวไปสู่ยุคใหม่ บริษัทเป็นเจ้าของสิทธิบัตรมากกว่า 1,800 รายการในปัจจุบัน พร้อมด้วยผลิตภัณฑ์เครื่องมือและบริการ รวมถึงความรู้ความเชี่ยวชาญเชิงลึกด้านงานตัดเฉือนโลหะ ไปจนถึงรากฐานที่แข็งแกร่งในด้านการวิจัยและพัฒนาและความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับทั้งลูกค้าและผู้ผลิตเครื่องจักร ผลิตภัณฑ์และบริการจาก Sandvik Coromant จึงสามารถสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันได้อย่างแท้จริงสำหรับอุตสาหกรรมอากาศยาน
ตัวอย่างเช่น Sandvik Coromant มีการลงทุนเป็นเงินจำนวนมากในด้านการพัฒนาเครื่องมือสำหรับวัสดุตัดเฉือนยากโดยเฉพาะ การใช้เครื่องมือกัดข้างอัตราป้อนสูงเป็นวิธีการที่มีประสิทธิภาพสำหรับการทำงานกับวัสดุตัดเฉือนยาก โดยหน้าสัมผัสด้านแนวรัศมีจะมีขนาดเล็ก ทำให้ใช้ความเร็วตัด อัตราป้อนงาน และระยะกินลึกได้มากขึ้น เนื่องจากความร้อน ความหนาของเศษ และแรงตัดแนวรัศมีลดลง เครื่องมือในตระกูล CoroMill® Plura เป็นตัวอย่างหนึ่งของผลิตภัณฑ์จาก Sandvik Coromant ที่พัฒนาขึ้นโดยเฉพาะสำหรับการทำงานกับวัสดุซูเปอร์อัลลอยทนความร้อน (HRSA)
การกัดข้างอัตราป้อนสูงด้วย CoroMill Plura
นอกจากผลิตภัณฑ์เครื่องมือสำหรับผู้ผลิตในอุตสาหกรรมอากาศยานโดยเฉพาะแล้ว Sandvik Coromant ยังเข้าใจถึงความต้องการในด้านระบบเครื่องมือดิจิตอลที่จะช่วยให้การทำงานสะดวกราบรื่นยิ่งขึ้นและเพิ่มประสิทธิภาพให้กับการผลิต ความท้าทายของผู้ผลิตชิ้นส่วนอากาศยานส่วนใหญ่คือ การมีเครื่องมือที่เหมาะสมในเวลาที่เหมาะสม การวางแผนจัดซื้อเครื่องมือสำหรับโรงงานจึงจำเป็นต้องมีความโปร่งใสในทุกขั้นตอน ซึ่งการเก็บรวบรวมข้อมูลและเอกสารต่างๆ ด้วยคนเช่นในอดีตเป็นงานที่ทั้งยุ่งยากและเสียเวลา ในขณะที่การเปลี่ยนมาใช้ระบบข้อมูลออนไลน์นั้นสามารถที่จะเปิดโอกาสความเป็นไปได้ใหม่ๆ ในแง่ของความโปร่งใส ประสิทธิภาพในการวางแผน และความสะดวกราบรื่นของกระบวนการผลิต
ระบบ CoroPlus® Machining Insights จาก Sandvik Coromant ช่วยให้ผู้ผลิตสามารถเรียกดูข้อมูลต่างๆ ได้ทันที จึงช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต รวมถึงประสิทธิภาพโดยรวมในการใช้อุปกรณ์ต่างๆ ความสามารถในการเข้าถึงข้อมูลต่างๆ ได้ทันทีที่ต้องการ เช่น การใช้งานเครื่องมือ ข้อมูลเครื่องจักร และประสิทธิภาพของกระบวนการ ช่วยลดความซับซ้อนของขั้นตอนสำคัญของงาน MRO เช่น การใช้งานเครื่องมือ
อุตสาหกรรมอากาศยานสร้างนวัตกรรมมานานกว่าศตวรรษ และเปลี่ยนความฝันในการบินขึ้นสู่ท้องฟ้าของมนุษย์ให้กลายเป็นจริง แต่อุตสาหกรรมนี้ยังคงเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง และจำเป็นที่จะต้องปรับตัวอยู่ตลอดเวลาตามสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป การรู้เกี่ยวกับเทรนด์ของอุตสาหกรรมเพียงอย่างเดียวไม่สามารถสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันได้อีกต่อไป แต่การที่จะประสบความสำเร็จได้นั้นจำเป็นจะต้องมีความเข้าใจในวัสดุและเทคโนโลยีที่เป็นหัวใจของนวัตกรรมอากาศยาน
